เมล็ดฟักทอง มีประโยชน์ที่ไม่ควรมองข้าม
: 119
: 16-Jan-24
เมล็ดฟักทอง มีประโยชน์ที่ไม่ควรมองข้าม
(13).jpg)
เมล็ดฟักทอง มีประโยชน์ที่ไม่ควรมองข้าม
เมล็ดฟักทองหรือที่เรียกว่า Pumpkin Seeds เป็น เมล็ดที่อยู่ในผลฟักทอง ลักษณะเมล็ดแบนสีเขียวเข้มบางชนิดห่อหุ้มด้วยเปลือกสีเขาว เนื้อในของเมล็ดฟักทองนุ่มหนึบและมีรสหวานเล็กน้อย สามารถกินได้ทั้งเปลือกหรือไม่มีเปลือก
ประโยชน์เมล็ดฟักทองทางโภชนาการ
เมล็ดฟักทองถือว่าเป็นแหล่งแร่ธาตุสังกะสีจากองค์การอนามัยโลกที่มีโภชนาการทางด้านสารอาหารครบถ้วน ปริมาณที่แนะนำในการบริโภคเมล็ดฟักทอง 30 กรัมต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการใน 1 วัน จะให้โปรตีน ไขมัน ไฟเบอร์ สังกะสี แมกนีเซียม และสารอาหารอื่น ๆ ที่ดีต่อสุขภาพได้รับการพิสูจน์แล้ว
เมล็ดฟักทองเป็นอาหารว่างที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ ดังนี้
- ดีต่อสุขภาพหัวใจ เมล็ดฟักทองเป็นแหล่งที่ดีของไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LDL (คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี) และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอล HDL (คอเลสเตอรอลชนิดดี) นอกจากนี้ยังช่วยลดความดันโลหิต ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
- บำรุงระบบประสาท เมล็ดฟักทองเป็นแหล่งที่ดีของวิตามินบี 6 ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาท ช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันความจำเสื่อม และลดความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์
- บำรุงกระดูกและฟัน เมล็ดฟักทองเป็นแหล่งที่ดีของแมงกานีส แคลเซียม และฟอสฟอรัส ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างและบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
- ดีต่อระบบย่อยอาหาร เมล็ดฟักทองมีใยอาหารสูง ซึ่งช่วยในการย่อยอาหาร ป้องกันอาการท้องผูก และลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
- บำรุงผิวพรรณ เมล็ดฟักทองเป็นแหล่งที่ดีของวิตามินอี ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอย
- ดีต่อระบบสืบพันธุ์ เมล็ดฟักทองเป็นแหล่งที่ดีของสังกะสี ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญต่อระบบสืบพันธุ์ของทั้งชายและหญิง โดยเฉพาะในผู้ชาย สังกะสีมีส่วนช่วยในการเพิ่มจำนวนตัวอสุจิและเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิสนธิ ในผู้หญิง สังกะสีมีส่วนช่วยในการบำรุงรังไข่และไข่
นอกจากนี้ เมล็ดฟักทองยังมีสรรพคุณอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ และช่วยต้านการอักเสบ เป็นต้น
รับประทานเมล็ดฟักทองอย่างไรให้ปลอดภัย
การรับประทานเมล็ดฟักทองในปริมาณปกติไม่น่าจะก่อให้เกิดอันตราย แต่การรับประทานมาก ๆ โดยหวังว่าจะใช้ช่วยรักษาโรคใด ๆ นั้น มีข้อพึงระวังดังนี้
- แม้เมล็ดฟักทองมีเส้นใยอาหารสูง ช่วยเพิ่มการขับถ่ายและลดอาการท้องผูกในระยะยาว แต่หากรับประทานมากเกินไปอาจส่งผลข้างเคียงให้เกิดแก๊สในกระเพาะและมีอาการท้องอืดหรือหากรับประทานเป็นปริมาณมากในคราวเดียวก็อาจมีอาการท้องผูก
- เมล็ดฟักทองมีไขมันและแคลอรี่สูง การรับประทานมากเกินไปอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้
- เพื่อความปลอดภัย หญิงที่ตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรไม่ควรรับประทานเมล็ดฟักทองในปริมาณมากผิดปกติ เพราะยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาตร์ที่สามารถรับรองความปลอดภัยได้อย่างแน่ชัด
- ปริมาณการใช้เมล็ดฟักทองในงานวิจัยที่น่าเชื่อถือได้ในปัจจุบันยังคงระบุได้เพียงกรณีใช้เพื่อรักษาอาการของโรคต่อมลูกหมากโต โดยเป็นการใช้น้ำมันสกัดจากเมล็ดฟักทองวันละ 480 มิลลิกรัม แบ่งใช้วันละ 3 ครั้งผสมกับน้ำมันจากผลปาล์มแห้ง และสมุนไพรอื่น ๆ
ปรึกษาการ รักษามะเร็ง
ดูแลผู้ป่วยมะเร็ง
กรุณากรอกแบบฟอร์ม เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมง
