การดูแลและฟื้นฟูร่างกายหลังได้รับเคมีบำบัด

: 8

: 23-Jul-25


เคมีบำบัด คือ การใช้ยาเพื่อทำการรักษาโรคมะเร็ง โดยยาเคมีบำบัดจะเข้าไปทําลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตและการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง
เป้าหมายของการรักษาด้วยคีโม

  1. เพื่อให้หายขาดจากมะเร็ง (Cure) เป้าหมายหลักของการให้คีโม หรือ เคมีบำบัด คือ การหายขาดจากโรคมะเร็ง และไม่กลับมาเป็นมะเร็งซ้ำ รวมถึงสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติและมีคุณภาพ 
  2. เพื่อให้สามารถควบคุมโรคได้ (Control) การให้คีโมเล็งผลให้เซลล์มะเร็งถูกทำลาย ยับยั้งเซลล์มะเร็งไม่ให้แพร่กระจายสู่อวัยวะอื่น และทำให้มะเร็งหดตัวลง คีโมช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิต และช่วยให้ผู้รับการรักษามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
  3. เพื่อประคับประคอง (Palliative care) ในผู้ป่วยมะเร็งระยะที่ 3-4 ที่มะเร็งมีการแพร่กระจาย การให้คีโมช่วยบรรเทาความเจ็บปวด ยับยั้งไม่ให้มะเร็งแพร่กระจายสู่อวัยวะอื่น และช่วยประคับประคองให้สามารถใช้ชีวิตได้ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

ผลข้างเคียงจากการรักษาด้วยเคมีบำบัด
การให้เคมีบําบัด สามารถหยุดการเติบโตและการเพิ่มจํานวนของเซลล์มะเร็ง โดยยาจะเข้าถึงเซลล์มะเร็งผ่านทางกระแสเลือด ทำให้เซลล์ปกติที่มีการเพิ่มจํานวนอย่างรวดเร็ว เช่น เซลล์รากผม เยื่อบุในช่องปาก หรือเม็ดเลือด ก็จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน อาจทําให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ปกติ เช่น แผลในช่อง ผมร่วง หรือเบื่ออาหาร เป็นต้น

ผลข้างเคียงที่พบบ่อย และ วิธีการดูแลตัวเอง

คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร

  • กินอาหารย่อยง่าย หลีกเลี่ยงอาหารครีม มัน เนย รสจัด ของทอด ของมัน
  • ลองกินอาหารรสชาติเปรี้ยว เช่น น้ำมะนาว อาหารแห้งๆ เช่น ขนมปังปิ้ง ขนมปังกรอบ
  • รับประทานอาหารทีละน้อย ๆ แบ่งเป็นหลาย ๆ มื้อ
  • กินช้า ๆ เคี้ยวละเอียด เพื่อให้ย่อยง่าย
  • หากการรับรสผิดปกติ รู้สึกขมตลอดเวลา ควรหาลูกอมที่ทำให้รู้สึกสดชื่น
  • หากกินอาหารได้น้อยลงมาก อาจกินอาหารเสริมทางการแพทย์

ท้องเสีย

  • ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
  • ดื่มผงเกลือแร่ผสมกับน้ำบ่อย ๆ

ช่องปากอักเสบ

  • บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ
  • แปรงฟันด้วยแปรงขนอ่อนนุ่มหลังอาหารทุกมื้อ และ ก่อนนอน
  • กินอาหารอ่อน เคี้ยวง่าย เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ไอศกรีม วุ้น พุดดิ้ง แตงโม
  • หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด
  • หลีกเลี่ยงน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะทำให้ระคายเคืองมากขึ้น

ผมร่วง

  • สระผมด้วยแชมพูเด็กที่มีความอ่อนโยน
  • หลีกเลี่ยงการย้อม หรือ ดัดผม

อ่อนเพลีย

  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ทำกิจวัตรเท่าที่จำเป็น

การดูแลตัวเองหลังได้รับเคมีบำบัด

  • หากมีไข้สูง หรือมีอาการติดเชื้อ ให้รีบพบแพทย์
  • หลังได้รับคีโมประมาณ 2-3 วัน อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน พะอืดพะอม โดยแพทย์จะให้ยาป้องกันอาการกลับไปทานที่บ้าน
  • หากมีอาการเจ็บหรือปวดบริเวณที่ฉีดยา ให้ประคบเย็น หรือประคบอุ่น ทุก ๆ 4-6 ชั่วโมง ครั้งละประมาณ 15 นาที ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับชนิดของยาเคมีบำบัด หากมีอาการปวดร่วมกับอาการบวม แดง แสบร้อน หรือมีสารคัดหลั่งออกจากจุดเข็มเจาะ ให้รีบกลับมาพบแพทย์
  • ช่วงสัปดาห์แรกหลังรับยาคีโมอาจมีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง โดยอาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ
  • ผู้ที่รับคีโมส่วนใหญ่อาจเกิดอาการผมร่วง ในช่วงแรกอาจรู้สึกเจ็บหนังศีรษะ การตัดผมสั้นอาจทำให้รู้สึกสบายและดูแลง่ายขึ้น โดยหลังจากหยุดรับยาคีโมแล้ว ผมจะค่อย ๆ กลับงอกขึ้นมาได้ใหม่
  • หากมีอาการเจ็บหรือแสบร้อนในปาก ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันให้เป็นชนิดขนอ่อนนุ่มและบ้วนปากบ่อย ๆ ด้วยน้ำสะอาดเพื่อช่วยรักษาความสะอาดในช่องปาก ลดการติดเชื้อ และห้ามใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะอาจยิ่งทำให้เกิดการระคายเคือง 
  • สีเล็บมือ เล็บเท้าอาจคล้ำลง และ ผิวหนังอาจไวต่อแสงแดดมากขึ้น
  • ให้รับประทานอาหารปรุงสุก สะอาด ให้ครบ 5 หมู่ โดยเน้นอาหารจำพวกโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ ถั่ว นม 
  • ออกกำลังกายตามความเหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • งดการสูบบุหรี่ งดแอลกอฮอล์ 

การรับประทานอาหารหลังได้รับเคมีบำบัด
อาหารคือสิ่งสำคัญในการดูแลตัวเองหลังการรับเคมีบำบัด เนื่องจากการได้รับสารเคมีจะเกิดการทำลายหรือยับยั้งเซลล์ที่มีการเจริญเติบโตเร็วในร่างกาย ซึ่งรวมถึงจำนวนเม็ดเลือดขาวที่ช่วยในการกำจัดเชื้อโรค ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง พยายามรับประทานอาหารให้เพียงพอ ผู้ป่วยที่ได้รับเคมีบำบัดมักมีอาการ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน

อาหารที่ควรรับประทานหลังได้รับเคมีบำบัด

  • อาหารปรุงสุกใหม่ อาหารที่สุกและสะอาดช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคในระบบทางเดินอาหาร
  • อาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อปลา นม และไข่ไก่ต้มสุก เต้าหู้ ถั่วเหลือง เป็นแหล่งโปรตีนที่ย่อยง่ายและราคาถูก โปรตีนมีความสำคัญในการเสริมสร้างเซลล์ในร่างกายที่ถูกทำลายไป 
  • ทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเพื่อเพิ่มพลังงาน เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต มันฝรั่ง มันเทศ ขนมปังโฮลวีท เป็นต้น
  • ทานผัก ผลไม้ที่ย่อยง่าย เช่น แครอท ตำลึง ฟักทอง กล้วย เป็นต้น
  • รับประทานอาหารจากร้านที่เชื่อได้ว่าปรุงสุกสะอาด ถูกสุขอนามัยเท่านั้น

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังได้รับเคมีบำบัด

  • หลีกเลี่ยงรับประทานอาหารค้างคืน เพราะมีความเสี่ยงที่ร่างกายจะได้รับเชื้อโรคที่กำลังเพาะตัวในอาหารจานนั้น
  • หลีกเลี่ยงรับประทานอาหารหมัก ดอง ดิบ กึ่งสุก กึ่งดิบ เพราะมีความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคที่ทำให้เกิดอาการท้องเสีย ท้องร่วง
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอลล์ หรือ เสพสิ่งมึนเมาอื่น ๆ ในระหว่างการรักษา ที่อาจกระตุ้นการทำงานของเซลล์มะเร็ง

 

สำหรับคนที่กำลังมองหาทางเลือกในการดูแลสุขภาพ ยาน้ำเทียนเซียน คือ ยาตามองค์ความรู้ของแพทย์แผนจีนที่ประกอบไปด้วยสมุนไพร 14 ชนิด มีสรรพคุณในการขับร้อนถอนพิษ บำรุงร่างกาย และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทั้งในผู้ป่วยโรคมะเร็งและผู้ที่ต้องการดูแลตัวเอง โดยยาน้ำเทียนเซียนได้ผ่านการวิจัยและพัฒนาจากสถาบันวิจัยยาฉางไป๋ซาน ใช้เทคโนโลยีการผลิตมาตรฐาน GMP และถูกรับรองโดย US FDA ให้เป็นอาหารเสริมที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อร่างกาย
การส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยยาน้ำจากสมุนไพรจีนธรรมชาติ สามารถสั่งซื้อได้เลยที่ LINE : @tianxian


ปรึกษาผลิตภัณฑ์ ยาเทียนเซียน
ดูแลผู้ป่วยมะเร็ง

กรุณากรอกแบบฟอร์ม เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมง

213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

โทร 02-264-2217 02-264-2218 02-264-2219

Copyright © 2020 บริษัท เฟยดา จำกัด. All rights reserved.

"